| 
               
                ธาตุอาหารพืช เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช ประกอบด้วย 17 ธาตุ ได้แก่ 
	- คาร์บอน,
 
	- ไฮโดรเจน,
 
	- ออกซิเจน,
 
	- ไนโตรเจน,
 
	- ฟอสฟอรัส,
 
	- โปแตสเซียม,
 
	- แคลเซียม,
 
	- แมกนีเซียม,
 
	- กำมะถัน,
 
	- เหล็ก,
 
	- แมงกานีส,
 
	- สังกะสี,
 
	- ทองแดง,
 
	- โบรอน,
 
	- โมลิบดีนัม,
 
	- คลอรีน
 
	- และนิเกิล
 
 
           
        
      
      
       
           
              
                           
                         
        
           
               
               
               
                 
      
        | 
   
       
   
     
      
       | 
               
                 กลุ่มธาตุอาหารหลัก (primary nutrient elements) 3 คือ ธาตุอาหารพืชที่ต้องการในปริมาณมาก 3 ธาตุ ได้แก่ 
	- ไนโตรเจน
 
	- ฟอสฟอรัส
 
	- และโพแทสเซียม
 
 
	- กลุ่มธาตุอาหารรอง (secondary nutrient elements) คือ ธาตุอาหารที่พืชต้องการในปริมาณน้อยกว่ากว่ากลุ่มแรก 3 ธาตุ ได้แก่
 
 
	- แคลเซียม
 
	- แมกนีเซียม
 
	- และกำมะถัน
 
 
	- จุลธาตุ 8 ธาตุ (micronutrient elements) คือ ธาตุอาหารที่พืชต้องการในปริมาณน้อย โดยที่มีความเข้มข้นของธาตุอาหารโดยน้ำหนักแห้ง เมื่อพืชเจริญเติบโตเต็มวัยต่ำกว่า 100 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ได้แก่
 
 
	- เหล็ก,
 
	- แมงกานีส,
 
	- สังกะสี,
 
	- ทองแดง,
 
	- โบรอน,
 
	- โมลิบดีนัม,
 
	- คลอรีน
 
	- และนิเกิล
 
 
           
        
      
      
       
           
              
                           
                         
        
           
               
               
               
                 
      
        | 
   
       
   
     
         
        |   ไนโตรเจน 
 | 
        
	หน้าที่ไนโตรเจนและความสำคัญต่อพืช   
 
1. ทำให้พืชเจริญเติบโต และตั้งตัวได้เร็ว โดยเฉพาะในระยะแรกของการเจริญเติบโต 
2. ส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบ และลำต้น ทำให้ลำต้น และใบมีสีเขียวเข้ม 
3. ส่งเสริมการสร้างโปรตีนให้แก่พืช 
4. ควบคุมการออกดอก และติดผลของพืช 
5. เพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้น โดยเฉพาะพืชที่ให้ใบ และลำต้น 
  
ขาดไนโตรเจน 
	- การเจริญเติบโตจะชะงัก
 
	- ใบมีสีเหลืองหรือเหลืองปนส้ม
 
	- เนื่องจากขาดคลอโรฟิลล์ หากเป็นมากใบจะมีสีน้ำตาล
 
	  
 
  
 | 
     
     
         | 
             
                  
         
         
          | 
      
       
   
     
         
        |   ฟอสฟอรัส 
 | 
        
	หน้าที่ฟอสฟอรัสและความสำคัญต่อพืช   
 
1. ส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก ทั้งรากแก้ว ราฝอย และรากแขนง โดยเฉพาะในระยะแรกของการเจริญเติบโต 
2. ช่วยเร่งให้พืชแก่เร็ว ช่วยการออกดอก การติดผล และการสร้างเมล็ด 
3. ช่วยให้รากดูดโปแตสเซียมจากดินมาใช้เป็นประโยชน์ได้มากขึ้น 
4. ช่วยเพิ่มความต้านทานต่อโรคบางชนิด ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพดี 
5. ช่วยให้ลำต้นแข็งแรง ไม่ล้มง่าย 
6. ลดผลกระทบที่เกิดจากพืชได้รับไนโตรเจนมากเกินไป 
ขาดฟอสฟอรัส 
	- อาการจะเริ่มที่ใบแก่ก่อน ใบมีขนาดเล็ก จำนวนใบน้อย ใบแห้งเป็นจุดๆ
 
	- การเจริญเติบโตของพืชหยุดชะงัก
 
	- ลำต้นแคระแกร็น
 
	- รากเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือน้ำตาล
 
 
  
 | 
     
     
         | 
             
                  
         
         
          | 
      
       
   
     
         
        |    โปแตสเซียม 
 | 
        
	หน้าที่โปแตสเซียมและความสำคัญต่อพืช   
 
1. ส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก ทำให้รากดูดน้ำ และธาตุอาหารได้ดีขึ้น 
2. จำเป็นต่อการสร้างเนื้อผลไม้ การสร้างแป้งของผล และหัว จึงนิยมให้ปุ๋ยโพแทสเซียมมากในระยะเร่งดอก ผล และหัว 
3. ช่วยให้พืชต้านทานการเปลี่ยนแปลงปริมาณแสง อุณภูมิหรือความชื้น 
4. ช่วยให้พืชต้านทานต่อโรคต่างๆ 
5. ช่วยเพิ่มคุณภาพของพืช ผัก และผลไม้ ทำให้พืชมีสีสัน เพิ่มขนาด และเพิ่มความหวาน 
6. ช่วยป้องกันผลกระทบจากที่พืชได้รับไนโตรเจน และฟอสฟอรัสมากเกินไป 
ขาดโปแตสเซียม 
	- ใบเหลืองเป็นแนว ใบแห้งตายเป็นจุดๆ โดยเฉพาะบริเวณขอบ และปลายใบ ใบม้วนงอ
 
	- ลำต้นมีปล้องสั้น
 
	- ยอดใบเป็นจุดๆ
 
 
  
 | 
     
     
         | 
             
                  
         
         
          |